คำถามใหญ่ ๆ
‘ชีวิต’มักเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่รอให้เราค้นพบและตอบ ทุกย่างก้าวมักมีเรื่องชวนสงสัย ตั้งแต่คำถามใหญ่ๆอย่างเช่น “เราเกิดมาทำไม ?” ยิบย่อยไปจนถึง “วันนี้จะกินอะไรดี?”
เรื่องเล่าผ่านข้อความที่ถูกคัดกรองก่อนลงมือเขียน มีความจริงเป็นส่วนผสมหลักและใช้เทคนิคการเรียบเรียงเพื่อกลั่นออกมาเป็นเนื้อหา อาจเป็น สารคดี บทความ เรื่องสั้น เรื่องยาว หรือเรื่องราวที่ระบบตรรกะและเหตุผลของสากลโลก จะอนุญาตให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้
‘ชีวิต’มักเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่รอให้เราค้นพบและตอบ ทุกย่างก้าวมักมีเรื่องชวนสงสัย ตั้งแต่คำถามใหญ่ๆอย่างเช่น “เราเกิดมาทำไม ?” ยิบย่อยไปจนถึง “วันนี้จะกินอะไรดี?”
ทำไมถึงอ้วน ? ในวันที่อารมณ์ดี อาจตอบว่า กำลังตั้งท้องเดือนที่ 6 อยู่ ในวันที่อารมณ์ดีน้อย ก็อาจตอบว่า อ้วนเพราะกินเยอะละมั้ง แต่ใครกันเล่า ที่จะอารมณ์ดีตลอด
ในวันที่ชีวิต มีเหตุให้ต้องก้าวออกจากรั้วมหาลัย บ้างโชคดีหน่อย ที่กอบโกยหลายสิ่งหลายอย่างที่จะใช้เป็นต้นทุนชีวิตได้หลายกระสอบ ในขณะที่อีกหลายส่วนก็โชคร้าย เพราะเดินออกมาแบบตัวเปล่าเล่าเปลือย แม้กระทั่งทิศทางในความจริงของชีวิต หรือแม้แต่ความฝันของตัวเอง ก็ยังไม่มีเปื้อนติดปลายรองเท้าออกมาเลยแม้แต่น้อย
ชีวิตที่มีเพลงประกอบ น่าจะเป็นชีวิตที่งดงาม ราวมิวสิควีดิโอ ถ้าฉากนั้นไม่ใช่จังหวะดนตรีที่สวยงาม อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เศร้าโศกได้อย่างมีสุนทรียะ ...
ไม่ค่อยแน่ใจ ว่านั่นเป็นประโยคคำถาม หรือการอุทานที่ฉุนเฉียว เลื่อนๆโทรศัพท์ไปก็คิดไม่ตก ภาพที่เห็นตรงหน้า เป็นแหล่งกำเนิดเสียงจากเครื่องหมายคำพูดได้เป็นอย่างดี
เรือเล็ก ที่เขียนป้ายชื่อติดว่า “ชีวิตหลังเรียนจบ” กำลังจะเริ่มต้นเดินทาง หลังจากที่ได้หยุดจอด เพื่อเตรียมเสบียง อยู่บนชายหาดที่ชื่อว่า “มหาวิทยาลัย” มาหลายปี
ทำไมต้องมีเว็บไซต์ เป็นของตัวเองอีกล่ะ ? ในเมื่อทุกวันนี้โปรไฟล์ของเราในแต่ละโซเชี่ยล ก็สามารถสร้างเสร็จได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีเองนะ
เป็นผมเองในวัย 21 ปี ที่กำลังนั่งร้องเพลงสารพัดสารเพที่นึกขึ้นได้ พร้อมๆกับระลึกความหลังปนๆกับนึกถึงปัจจุบันและอนาคต ที่ดูเหมือนว่าปัจจุบันของผมกำลังประสบความสำเร็จจากการหนีความวุ่นวาย
เป็นเรื่องน่าฉุกคิดว่าทำไมอาการอกหักกับเพลงอกหัก ถึงเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ดั่งเช่นภาพในอุดมคติ ที่ว่า อกหักแล้วต้องเดินทำเอ็มวีกลางสายฝน ...
ความคิด และจินตนาการของผม เริ่มทำงานทันที ที่เสียงหวูดของรถไฟดังขึ้น ผมได้แต่คิดแล้วก็ตื่นเต้นกับการเดินทางที่ไม่ได้วางแผนอะไรไว้แม้แต่นิดเดียว รู้เพียงแค่ว่าต้องขึ้นรถไฟฟรี ไปลงที่ กทม.